รีวิวเช่ารถขับเองในฝรั่งเศส France 2024

เนื่อจากหาข้อมูลเช่ารถขับเองที่ฝรั่งเศสค่อนข้างมีน้อยและไม่อัพเดต เลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ล่าสุด และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เพื่อเป็นประโยชน์ในการขับขี่และประกอบการตัดสินใจกันค่ะ

เอกสารที่ต้องใช้

• ใบขับขี่ไทย(บัตรแข็ง) (ใครลืมเอามา เช่าไม่ได้นะคะ)
• ใบขับขี่สากล
• Passport
• ประกันรถ

การรับ-ส่งรถ

• ศูนย์ Car Rental อยู่ที่ Terminal 2F ในสนามบิน CDG ที่เห็นในรูปด้านล่างมี Hertz, Enterprise, SIXT, Europcar, Avis, Budget
• ควรจองล่วงหน้า เพราะคนยุโรปส่วนใหญ่ขับเกียร์ Manual ค่ะ
• การเช่ารถควร คำนึง จำนวนผู้โดยสาร ขนาดและจำนวนกระเป๋าที่รถสามารถใส่ได้
• ตรวจเช็คสภาพร่องรอยรถ และน้ำมันว่าเต็มถังก่อนใช้งาน เพื่อกันมีปัญหาภายหลัง
• คนนั่งหลังต้องคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย
• เด็กเล็กต้องมีคาร์ซีท หรือ booster(เช็คกับเจ้าหน้าที่อีกที)
• เด็กควรนั่งด้านหลัง
• มี GPS นำทาง ติดมาให้ในรถเลย จอใหญ่ สะดวก ไม่ต้องกังวลว่าแบตมือถือจะหมด โดยรวมดี แต่บางแยกก็ไม่พูดล่วงหน้าว่าต้องชิดซ้ายหรือขวา ขับผิดทีก็กลับมาตั้งหลักนานหน่อย
• เติมน้ำมันให้เต็มถัง ก่อนมาคืนรถ ไม่งั้นโดนปรับจ๊ะ

การเดินทางในสนามบิน

• มี CDGVal รถไฟฟ้าอัตโนมัติไร้คนขับ เชื่อมระหว่าง Terminal ต่าง ๆ ให้นั่งฟรี วิ่งเรื่อย ๆ ทุก 4-8 นาที เริ่ม ตี4 ถึง ตี1 ของทุกวัน
• จุด CDGVal stops:
  • Terminal 1
  • Car park PR
  • Terminal 3 / Roissypole / Paris by train (RER B)
  • Car park PX
  • Terminal 2A, 2C, 2D, 2E, 2F, 2G / Paris by train (RER B)

การขับรถ

• พวงมาลัยซ้าย ขับชิดขวา
• เลนซ้ายสุดไว้แซง
• บีบแตรเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ควรใช้แตรระหว่างพลบค่ำถึงพระอาทิตย์ขึ้น เว้นแต่ในกรณีฉุกเฉิน
• คนนั่งข้างสำคัญ เพราะการขับรถต่างถิ่นจะค่อนข้างเครียด โดยเฉพาะเมืองใหญ่ ๆ เช่น Paris, Rouen ถนนซับซ้อน มีสะพาน ทางแยกเยอะ รถหนาแน่น ต้องมีคนข้าง ๆ ช่วยดูทาง
• คนฝรั่งเศสขับรถกันคล่องนะ ไม่มีขับช้า หวานเย็นแบบบ้านเรา…..ใครขับช้า เงอะงะ โดนบีบแตรจ้า(เดาว่าคงเพราะที่นั่นระบบสอบใบขับขี่คงเข้มข้น)
• มอไซต์จะวิ่งตรงกลางระหว่าง เลนซ้ายสุด กับ เลนถัดมา ซึ่งเราต้องขับเว้นให้มอไซต์วิ่ง จะมาขับตรงกลางเลนไม่ได้นะ ไม่งั้นเจอบีบแตร (อีกแล้วจ้าา)
• ถนนนอกเมืองบางที่ ชอบมีขอบถนนยื่นเข้ามา ให้ถนนแคบลง เดาว่าเพื่อไม่ให้รถวิ่งเร็ว เพราะต้องสลับกันวิ่ง กลางคืนต้องดูให้ดี อันตรายเหมือนกัน(ถ่ายรูปมาไม่ทัน)
• เลนจักรยานมีแบ่งแยกจากเลนรถ แต่บางที่ใช้เลนร่วมกับรถยนต์ ต้องสังเกตดี ๆ

วงเวียน(Roundabout)

• ที่นี่ใช้วงเวียนเยอะมาก โดยเฉพาะเมืองเล็ก ๆ ไม่ว่าจะแยกเล็ก แยกน้อย ตอนแรกก็งง ๆ เพราะคนที่อยู่ในวงเวียนนั้นขับแบบจัดเต็มมาก ทิ้งโค้งสุดตัว นึกว่าอยู่ในสนามแข่งรถ จนหลัง ๆ เริ่มเข้าใจล่ะว่า รถในวงเวียนเป็นทางเอก รถจะเข้าวงเวียนต้องคอยดูจังหวะรถในวงเวียนโล่งก่อน ถึงจะเข้าได้

จำกัดความเร็ว Speed limit

• มีป้ายบอกริมทางเป็นระยะ, GPS ขึ้นบอกด้วย
• มอเตอร์เวย์ — 130 กม./ชม. ในสภาวะปกติ, 110 กม./ชม. ฝนตก, 50 กม./ชม. เมื่อทัศนวิสัยต่ำกว่า 50 เมตร
• ถนนคู่หรือมอเตอร์เวย์ในเมือง — 110 กม./ชม. ในสภาวะปกติ, 100 กม./ชม. ขณะฝนตก, 50 กม./ชม. เมื่อทัศนวิสัยต่ำกว่า 50 เมตร
• ถนนอื่น ๆ — 90 กม./ชม. ในสภาวะปกติ, 80 กม./ชม. ขณะฝนตก, 50 กม./ชม. เมื่อทัศนวิสัยต่ำกว่า 50 เมตร
• พื้นที่ในเมือง/สิ่งปลูกสร้าง — 50 กม./ชม. ในทุกสภาวะ

Tollway

• ขับรถระหว่างเมือง จะมีค่ามีด่านเก็บเงินเรื่อย ๆ €4, €9 บ้าง เจอหลาย ๆ ด่านก็แพงอยู่
• การเข้าช่อง Tollway ให้เลือกรูปบัตรเครดิต(สีน้ำเงินในรูปด้านล่าง) แตะจ่ายสะดวกมาก เพราะที่นั่นเค้าไม่มีตู้พนักงานคอยรับเงินสดแบบบ้านเรานะ แนะนำควรทำบัตร Krungthai Travel card มา
• บัตร SCB บางที่จ่าย Toll ไม่ได้ ดีนะที่เราทำ Travel card มาด้วย ไม่งั้นก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องทำไง เจอคันหลังก็บีบแตรไล่ไปทีนึง เครียดมากค่ะ
• รูปด้านล่างเป็นด่านใหญ่ สังเกตจะเป็นบัตรเครดิต กับรูป t เป็นส่วนใหญ่ มีช่องรับเงินสดเพียง 1 ช่อง ถ้าด่านเล็ก ๆ บางทีไม่มีช่องรับเงินสดเลย

เติมน้ำมัน

• ปั๊มน้ำมัน ส่วนใหญ่เป็นตู้รับบัตรเครดิต เสียบบัตร -> เลือกประเภทน้ำมัน(แล้วแต่รถ โดยจะมีป้ายแปะที่เติมน้ำมันว่ารถแต่ละคัน ต้องเติมประเภทไหน)
• โดยบัตรเราจะต้องมีเงินขั้นต่ำ €100 หรือ €120 (แล้วแต่ปั๊ม) เค้าจะ lock วงเงินไว้ แล้วเค้าค่อยคืนเงินให้ทีหลัง เช่น ถ้าเราเติมจริง €25 เราต้องมีเงินในบัตร €100 พอผ่านไป 3-4 วัน ระบบจะคืนเงินให้ €75 เล่นเรากังวลไปหลายวันเลย 555 (บัตร Planet SCB ใช้ไม่ได้หลายปั๊ม นี่ก็ต้องใช้ Travel card ถึงรอดมาได้)
• ถ้าเจอปั๊มน้ำมันแบบรับเงินสด ต้องไปจ่ายเงินที่ด้านในก่อน แล้วค่อยวิ่งมาเติมน้ำที่รถ เสร็จแล้วค่อยไปด้านในอีกครั้ง เพื่อเอาเงินทอน(กรณีเติมน้อยกว่าที่จ่ายไปตอนแรก) หรือต้องการใบเสร็จ(ที่นี่เรียก ticket, ไม่เรียก receipt)
• ค่าน้ำมันในสนามบินจะแพงกว่าด้านนอก เช่น นอกเมืองParis 1.78 €/litre ในสนามบิน 1.95 €/litre
• ปั๊มน้ำมัน Avia, TotalEnergies, Esso, Shell, SuperU

จอดรถ

• ทุกครั้งที่จอดข้างทาง ให้มองหาตู้จ่ายเงิน กดเลือกภาษาอังกฤษ -> กดทะเบียนรถเรา -> กดว่าจะจอดกี่ชม. กี่นาที จากนั้นก็ไปเดินเล่นได้ แล้วกลับมาให้ตรงเวลาค่ะ
• ถ้าที่จอดรถเอกชน บางที่จะลงไปใต้ดิน หรือมีที่กั้น โดยก่อนเข้าจะต้อง กด/แตะ รับบัตรจอดรถก่อน ที่กั้นรถจะเปิด พอจอดรถเสร็จ เดินเล่นเรียบร้อย ก็มาจ่ายเงินที่ตู้ จากนั้นขับรถออก บางที่ไม่ต้องแตะบัตรเลย(น่าจะใช้กล้องดูทะเบียนรถ) ข้อดีคือ ไม่ต้องคิดแต่แรกว่าจะจอดกี่ชม. เพราะเราไม่เคยมา ก็ไม่รู้ว่าแต่ละที่จะใช้เวลานานเท่าไหร่
• ค่าจอดรถแพงที่สุด คือที่ DisneyLand €30 จอดได้ทั้งวัน (ค่าเข้าก็ว่าแพงแล้ว ค่าจอดยังแพงไปอี้ก T T)

อื่น ๆ

• Paris ถนนซับซ้อนและหาที่จอดรถยาก แนะนำใช้ระบบสาธารณะ เช่น Metro สะดวกกว่าค่ะ
• เวลาข้ามถนน ที่นี่เค้าเบรคแบบใกล้ถึงคนไปหน่อย ค่อนข้างน่าหวาดเสียว
• ส่วนตัวคิดว่าเช่ารถขับ เหมาะกับครอบครัวหรือมากันตั้งแต่ 4 คนขึ้นไป เพราะค่าใช้จ่ายเยอะเหมือนกัน ต้องคิดค่า Tollway, ค่าจอดรถ, ค่าน้ำมัน, ค่าประกัน ด้วย แต่ก็ได้ความสะดวกสบายค่ะ